ห้องครัวหรือ Pantry น่าจะมีประตูเป็นที่สุด
ปัจจุบันที่อยู่อาศัยแพงขึ้น ๆ
จนบรรดาบ้านหรืออพาร์ทเมนท์หรือคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ จะมีห้องครัว ไว้ในบ้าน ปนกับห้องทานอาหาร
หรือห้องรับแขก และผู้ทำขายก็จะออกแบบให้เป็นระบบครัว หรือแพนทรีที่ (คิดว่า) ไม่มีการหุงหาอาหารที่มีกลิ่นมีควัน
. ซึ่งในชีวิตจริงของคนไทยเรา เป็นเรื่องยากมาก เนื่องจาก การทำอาหารนั้น
พวกเราถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง หากเมื่อทำอาหารแล้ว ก็จะเหม็น (หอม) คละคลุ้ง ไปทั้งห้อง หากห้องนอนในบริเวณนั้นเป็นพื้นปูพรมละก็ กลิ่นจะตามหลอกหลอนท่าน ไปอีกหลายวันทีเดียว
จึงขอแนะนำว่า หากท่านเป็นคนที่มีพฤติกรรมชีวิตปกติแบบคนไทยทั่วไป น่าจะมีผนังประตูส่วนครัวนี้ไว้ จะดีกว่า แม้จะได้ห้องครัวที่เล็กแสนเล็กก็ตาม แต่หากห้องของท่านเล็กจริง ๆ
ถ้าไปกั้นผนังหรือทำประตูแล้ว จะทำให้ ที่อยู่ของท่าน อึดอัด ๆๆๆๆๆ ก็แนะนำว่าน่าจะมีฉากเลื่อนสำเร็จ (ที่น่าสูงถึงฝ้าเพดาน) ไว้สักชิ้น เวลาทำอาหาร ที่มีกลิ่นมีควัน ก็เลื่อนฉากปิด ทำครัวเสร็จแล้วก็เอาฉากออกคลายความอึดอัดได้
เลือกโทนสีน่าจะเลือกจากแคตตาล็อก อย่าให้ผู้รับเหมาผสมสีให้ท่านเลือก
รณีที่จะพูดถึงนี้หมายถึงการทาสีที่มีพื้นที่ผนังและฝ้าเพดานใหญ่กว่า 100 ตารางเมตร หากท่านต้องการสี ที่มีโทนพิเศษ แล้วให้ช่างสี ลองผสมสีโทนหลาย ๆ โทนเข้าด้วยกัน
(แล้วเกิดโทนสีใหม่) เป็นสิ่งที่ไม่น่าทำ เพราะพื้นที่เกินกว่า 100 ตารางเมตร ช่างสีไม่สามารถผสมสีเพียงครั้งเดียว ต้องผสมสีหลาย ๆ ครั้ง และแต่ละครั้ง ที่ช่างสีผสมสีโทนสีพิเศษที่ท่านเลือกไว้จะเกิดความผิดเพี้ยนกัน
ผลก็คือ ห้องที่ท่านอยากได้ โทนสีพิเศษ ก็จะได้พิเศษจริง ๆ คือจะมีสีหลาย ๆ โทนในห้องเดียวกัน จึงขอแนะนำและชี้นำอีกครั้งว่า ท่านน่าจะเลือกสี
จากแคตตาล็อกดีกว่าให้ช่างสีผสมสีขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้อย่าว่าแต่ท่านให้ช่างสีผสมสีโทนพิเศษให้ท่านเลย
แม้กระทั่งท่านเลือกสีตามแคตตาล็อกแล้ว สีมาจากบริษัทเดียวกันแล้ว (ไม่ปลอมด้วย) โทนสียังอาจจะแตกต่างกันเลย
ที่ทำงานของคุณมีบรรยากาศ แสนอึดอัด -
ซีเรียสเกินไปหรือเปล่า
บางทีคุณอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าความสดใสร่าเริงของคุณและเพื่อนร่วมงานที่สำนักงานของคุณหดหายไปหมด ในเวลาสาย-บ่าย-เย็น เป็นเพราะคุณอาจมองข้ามบรรยากาศรอบ ๆ ตัวคุณในที่ทำงานไปก็ได้ ลองเช็คสิ่งเหล่านี้ดูบ้าง เผื่อที่ทำงานคุณอาจจะน่าอยู่ขึ้น
1. ระบบถ่ายเทอากาศเพียงพอหรือไม่ อากาศมีการหมุนเวียนหรือไม่ หากระบบถ่ายเทอากาศไม่ดีพอ คูณก็ต้องสูดดมคาร์บอนไดออกไซด์ที่คุณหายใจออกมาเข้าไปอีกแทนที่จะได้รับออกซิเจนที่ร่างกายต้องการ
2. แสงในสำนักงานคุณสว่างเกินไปหรือไม่ หากสว่างเกินไปหรือแกล
(Glare) เกินไป คุณจะรู้สึกค่อย ๆ ตึงเครียดแน่นอน
3. สีภายในห้องคุณประหลาดพิสดารกว่าชาวบ้านบ้างหรือเปล่า (หากประหลาดมาก ก็แก้เสีย) หรือทุกอย่างก็แบนราบผิวเรียบสีขาวไปทั้งหมด ซึ่งความจริงก็ดูสะอาดสะอ้านดี แต่ก็แข็งเกินไป จนสมอง- สายตาคุณไม่ได้พักผ่อนเลย เอาต้นไม้ (จริงหรือปลอมไม่ว่ากัน) วางลงประดับเป็นจุด ๆ เสียบ้าง จะช่วยได้มากทีเดียว
4. ระบบเสียงในที่ทำงานคุณเป็นอย่างไร ใครกระซิบอะไรทำอะไรได้ยินกันหมดหรือเปล่า สมาธิการทำงานเลยแตกซ่าน หากเป็นดังนั้นใช้วัสดุดูดซับเสียงที่ฝ้าเพดานหรือผนังบ้านก็น่าจะดี (หากเสียงดัง เพราะวัสดุปูพื้น ก็เปลี่ยนวัสดุปูพื้นเสียก็ได้)
ดู "ฮวงจุ้ย" พื้นฐาน
ตอนนี้ศาสตร์การดู "ฮวงจุ้ย" กำลังเป็นที่นิยมกันมาก หากจับหลักใหญ่ ๆ ที่ใช้ดูที่ดินแบบชาวบ้าน ก็มีอยู่ ไม่กี่ประการ ซึ่งพอสรุปการดูง่าย ๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. ที่ดินที่มีถนนวิ่งเข้าใส่
ไม่ดี
2. ที่ดินรูปถุง (หน้าแคบหลังกว้าง)
ดี หน้ากว้างหลังแคบ
ไม่ดี
3. หน้าอิงน้ำหลังอิงเขา
มักจะดี (แต่มีสายน้ำพุ่งเข้าหา
ไม่ดี)
4. ประตูหน้า ตรงกับประตูหลังโดยไม่มีอะไรกั้นขวาง
ไม่ดี
ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นเช่น ห้ามจอดรถ (หรือเลี้ยงสัตว์ใต้ห้องนอนใหญ่) ห้ามมีแนวคานขวาง บนเตียงนอน ฯลฯ นั้นเป็นความเชื่อโบราณที่ปัจจุบันอาจจะแปลงไปแล้ว
หรือการหันทิศของอาคาร ตำแหน่งห้องน้ำ จำนวนช่องเปิด เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก และแล้วแต่ดวงหรือลักษณะของเจ้าของบ้าน
หากคุณเชื่อจริง ๆ คงจะต้องไปหาซินแสโดยตรงละครับ
 "หมามุ่ย" กับ "วัสดุกันความร้อนใยแก้ว" เกี่ยวกันอย่างไร
"หมามุ่ย" คือพืชชนิดหนึ่งเป็นขนขาว ๆ ใครโดนเข้าจะเกิดอาการคันคะเยอ
"วัสดุกันความร้อนใยแก้ว" เป็นเส้นใยเล็ก ๆ อัดกันหลวม ๆ เป็นแผ่น ใช้สำหรับบุผนังหรือฝ้าเพดาน เพื่อกันความร้อน (มักมีสีเหลือง ๆ เป็นที่คุ้นตา)
ของทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวกันตรงที่ว่า หากฉนวนใยแก้วมีอายุนาน ๆ ใยแก้วบางส่วน อาจแยกจาก แผ่นใหญ่ แล้วปลิวมาถูกผิวหนัง จะทิ่มแทงเข้าตามรูขน ทำให้เกิดอาการคัน
เหมือนโดนหมามุ่ยทีเดียว ดังนั้นจึงขอเตือนไว้ล่วงหน้าว่า หากจะให้ฉนวนใยแก้วบุฝ้าเพดาน ขอให้แน่ใจว่า ฝ้าเพดานของคุณ ปิดรอยต่อ ไว้อย่างดี จนเศษใยแก้วไม่สามารถหลุดลอดออกมา แล้วเปลี่ยนแปลงเป็นหมามุ่ยได้ ก็แล้วกัน
ไม้ตะเคียนทอง
..ต้องมีรอยมอดกินเสมอ
โดยทั่วไปสถาปนิกส่วนใหญ่จะแจ้งรายละเอียดของไม้วงกบประตูหน้าต่างให้เป็นไม้อย่างดี ๆ เพื่อไม่ให้ เกิดปัญหา ยึดหดของวงกบ
(เพราะหากยึดหดได้ประตูจะบิด แอ่นงอ เปิดปิดไม่ได้ หรือไม่สะดวกภายหลัง) รายละเอียดชนิดของไม้ที่จะใช้มักจะบุว่า "เป็นไม้ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ไม่มีมอดและแมลงเช่นไม้เต็งไทยแท้ ไม้มะค่า ไม้สัก หรือไม้ตะเคียนทอง"
ซึ่งในชีวิตจริง เป็นเรื่องยาก เพราะไม้ตะเคียนทอง (แท้) จะต้องมีร่องรอย ของมอดป่าเจาะเป็นรูเล็ก ๆ เสมอ (หากไม่มีรอยเจาะมอดป่า 99.98% จะเป็นไม้ชนิดอื่น ที่มีสีเหลือง ๆ คล้ายกับไม้ตะเคียนทอง
ซึ่งมีการยืดหดสูงและราคาถูกกว่ามาก) จึงขอแจ้งให้บรรดาสถาปนิก
ที่เขียนสเป็ค แก้ไขเสีย ส่วนผู้ตรวจงานก็น่าจะทราบไว้ด้วย เพราะเดี๋ยวจะเด๋อตอนตรวจงานและต่อว่าผู้รับเหมา ขอรับ
... อ่านต่อ
|