ระวังการใช้กระจกสีชาบนตึกหลาย ๆ ชั้น
กระจกสีชา ซึ่งเป็นกระจกตัดแสงเป็นกระจกอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมกัน แต่เวลาใช้ กับอาคารสูง ๆ ที่ความหนา ของกระจก ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะขนาดของช่องเปิด ใหญ่เล็กไม่เท่ากัน และเพราะมี แรงลม
(Wind Load) มากระทบไม่เท่ากัน
. เมื่อความหนาของกระจก มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความเข้ม ของกระจก ที่มองจากภายนอกก็จะ ใส-ทึบ ต่างกันออกไปด้วย เวลามองแล้ว เหมือนตึกที่ปุ ๆ ปะ ๆ คล้ายเสื้อขอทาน
แก้ไขได้ 2 วิธีคือ
1. เพิ่มความหนาของกระจกให้เท่ากันหมด
2. เปลี่ยนประเภทของกระจกในจุดที่ต้องการความแข็งแรงมาก โดยใช้ความหนา ของกระจกเท่า
เดิม เช่นหากต้องการ ความแข็งแรงเพิ่มขึ้นสัก 2 เท่า ก็ใช้กระจกแบบ Heat Strengthen (กระจกผ่านกรรมวิธี ความร้อน แบบเย็นช้า) หรือหากต้องการ ความแข็งแรง เพิ่มขึ้น 4-5 เท่า ก็ใช้กระจก Tempered (กระจกที่ผ่าน กรรมวิธีความร้อน แบบเย็นเร็ว) ซึ่งแน่นอนราคาจะต้องแพงขึ้น
เรื่องกระจก และชนิดของกระจกเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และต้องระมัดระวัง หากมีเวลาจะเขียนเรื่องนี้ ให้อ่านง่าย ๆ เป็นเรื่องเป็นราวต่อไปครับ
ไม่แน่ใจว่ากระจกแข็งแรง ก็อาจติดฟิล์มช่วย
แต่ระวังกระจกสีชาไว้นิดนึง
สำหรับผู้ที่เพิ่งจะรู้เรื่องกระจก และเล็งเห็นว่ากระจกของท่านที่ติดตั้งไปแล้วอาจไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ การจะเอากระจกออก และติดตั้งใหม่ อาจเป็นเรื่องใหญ่เกินไป และความแข็งแรงของกระจกที่ติดตั้งไปแล้ว อาจจะต่ำกว่ามาตรฐานไม่มาก มีวิธีกรรมง่าย ๆ ขั้นแรก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระจกก็คือการติดแผ่นฟิล์ม (อย่างที่เราติดฟิล์มรถยนต์) ด้านหลังกระจก แผ่นฟิล์มตัวนี้จะช่วยยึดกระจกได้บ้างเมื่อมีแรงเข้ามากระทำ
แต่การติดฟิล์มตามที่กล่าวมาข้างต้นต้องระวังนิดหนึ่งว่า หากเป็นกระจกสีชา และติดแผ่นฟิล์มสะท้อนแสง ความร้อน ที่ผ่านกระจกเข้ามา บางส่วนจะถูกกระจกสีชาดูดกลืนเอาไว้ เมื่อติดแผ่นฟิล์มสะท้อนแสงด้านหลัง ความร้อนที่ผ่านกระจกบางส่วน จะถูกสะท้อนกลับออกมา เพราะแผ่นฟิล์มสะท้อนแสง เมื่อความร้อนสะท้อนกลับ ก็จะผ่านกระจกอีก เกิดการสะสมความร้อน ในแผ่นกระจกเป็นทวีคูณ หากความร้อนสะสมมากเกินไปในแผ่นกระจก
กระจกก็แตก
ดังนั้น หากเป็นกระจกสีชา และต้องการติด แผ่นฟิล์ม เพื่อเสริมความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้ฟิล์มสะท้อนแสงก็คงจะดีครับ
อะไรนะ
กระจกเจียรปรี ?
กระจกเจียรปรี คือ กระจกที่ขัดขอบด้านข้าง ให้เอียงลาดลง (ส่วนใหญ่ทั้ง 4 ด้าน) เพื่อแสงเกิดหักเหแล้ว เหมือนแก้วเจียระไน ราคาจะแพงกว่ากระจกธรรมดาประมาณ ตารางฟุตละ 30 - 50 บาท แต่มีข้อควรระวังว่า
- ขอบกระจกที่เจียรแล้วจะบางมาก ติดตั้งไม่ดีจะทำให้บิ่นและแตกง่าย
- อย่าใช้มากเกินไป (แม้จะรวยมากก็ตาม) ใช้เพียงบางจุด ไม่อย่างนั้นแสงจะหักเห ลายตาไปหมด
. อาจเป็นโรคประสาทหลอนได้
รู้หรือเปล่า Curtain Wall มีกี่อย่าง ?
อาคารสำนักงานใหม่ ๆ ในยุคนี้ นิยมใช้ผนังกระจกกันมาก เพราะก่อสร้างง่าย และดูเหมือนว่า จะสวยงามดี ผนังกระจกนี้ จะแนบติดกับ โครงสร้างของพื้น (หรือคาน) ไม่วางอยู่บนพื้น แบบช่องเปิดเดิมๆ ทั่วไป ผนังกระจกนี้ เรียกว่า Curtain Wall
(Curtain = ม่าน, Wall = ผนัง) สามารถแยกออกได้เป็น 3 แบบคือ :
- แบบธรรมดา (Conventional System) มองด้านนอกเห็นกรอบอลูมิเนียม 4 ด้านเลย เช่น
อัมรินทร์พลาซ่า (ราชประสงค์) อาคารซิโนไทย (อโศก) ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ (พหลโยธิน) เป็นต้น
- แบบ 2-SIDED มองเป็นกรอบอลูมิเนียม เพียง 2 ด้าน เช่น อาคารบ้านโป่ง (ราชเทวี) เป็นต้น
ราคาแพงกว่าแบบแรก 10% - 15%
- แบบ 4-SIDED จะมองไม่เป็นกรอบอลูมิเนียมด้านนอกเลย เช่นอาคารมณียา (ราชประสงค์) อาคารการบินไทย (วิภาวดี) เป็นต้น ราคาแพงกว่า แบบที่สอง 10% - 15% เช่นเดียวกัน
ประตูบานเลื่อนสวนกัน ไม่จำเป็น
.อย่าใช้เพราะอะไร ?
ประตูบานเลื่อนสวนกัน นอกจากประโยชน์ที่ทำให้การตกแต่งภายในสามารถขยับได้บ้างแล้ว ก็ดูเหมือน ไม่มี ประโยชน์ อย่างอื่นอีกเลย
. แต่สิ่งที่ไม่ดีก็คือ
- ราคาแพง
- ไม่แข็งแรง
- เปิดรับลมได้เท่ากับบานเลื่อนที่เลื่อนได้ข้างเดียว (อีกข้างเป็นกระจกติดตาย)
- ถ้ามีบานมุ้งลวดด้วย อาจทำให้วงกรอบประตูหนากว่าผนังก่ออิฐปกติดูตลก
... อ่านต่อ
|