|
การทำงานฝีมือเป็นงานที่ละเอียดและต้องการความประณีตอย่างมาก
ดังนั้นห้องจึงควรมี
แสงสว่างที่เพียงพอ
ไม่เกิดเงากัน
คือถ้าทำงานฝีมือธรรมดา
ควรมีแสงสว่างไม่ต่ำกว่า
50 ฟุตแรงเทียน
และถ้าเป็นงานฝีมือที่ประณีตมากๆ
ควรมีความสว่างไม่ต่ำกว่า
100-150 ฟุตแรงเทียน
โดยอาจมีแสงไฟเป็นโคมหรือนีออนติดในระดับตาในกรณีแสงไม่พอ |
|
ในห้องเย็บจำเป็นต้องมีที่เก็บของเพื่อความเป็นระเบียบและหยิบใช้สะดวก
คือ
ควรมีหิ้งที่จะวางผ้าเป็นพับๆได้
มีที่วางกล่องเข็ม
กระดุม ด้าย เทป
ชอล์กเขียนผ้า
และกระจก
ลองแบบเสื้อที่สำหรับรีดผ้า
และราวแขวนเสื้อ
เป็นต้น |
การจัดห้องทำงานประเภทซักรีด
งานซีกรีดเป็นงานที่ต้องการความสะอาด
การติดตั้งอุปกรณ์ซักรีดควรต้องวางพื้นที่ที่ติดตั้งให้แน่นอน
เพราะระบบดังกล่าวจะมีการถ่ายน้ำเสียและมีเสียงรบกวน
(เครื่องซักผ้า)
ดังนั้นจึงควรจัดวางให้อุปกรณ์ในการซักรีดอยู่ห่างกันสักเล็กน้อย
ซึ่งอุปกรณ์ซักรีด
ได้แก่ |
|
|
1. อ่างแช่น้ำสกปรก แปรง
ผงซักฟอก
ตู้แขวนเสื้อผ้าที่ซักแล้ว
ที่เก็บผงซักฟอกและถังที่ใช้ในการซักรีด
2.
เครื่องซักผ้า
มีระบบน้ำที่นำไปใช้ในการซักผ้าทิ้งระบบน้ำเข้าและน้ำออก
ซึ่งปัจจุบันเครื่องซักผ้าได้ผลิตขึ้นมาใช้อย่างทันสมัยมีระบบอัตโนมัติต่างๆ
ที่ช่วยให้การซักผ้าเป็นไปได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับการวางเครื่องซักผ้าต้องวางในพื้นที่ที่มีความแข็งแรง
ทนทาน ทนน้ำได้
ส่วนผนังใกล้เครื่องซักผ้าควรทาสีที่ทนทานต่อการโดนน้ำหรือความชื้น |
|
การจัดมุมห้องเครื่องมือ-เครื่องใช้เป็นมุมที่ต้องการเก็บของและวางเครื่องมือใช้ให้เรียบร้อยเวลาหยิบจับมาใช้ตามประเภทวัสดุ
การจัดมุมห้องขั้นแรกต้องวัดขนาดสัดส่วนต้องการ
กว้าง ยาว เท่าไร
แล้วหาแผ่นเมโซไนท์ชนิดที่เจาะรูเรียบร้อยแล้ว
และก่อนที่จะตีเข้ากับผนังควรหาราวไม้รองรับ
แผ่นเมโซไนท์ไว้ก่อนเพื่อจะได้มีช่องห่างระหว่างแผ่นเมโซไนท์กับผนังไว้สำหรับเสียบตะขอ |
|
งานบางอย่างอาจมีเครื่องมือที่แหลมคมหรือเป็นอันตราย
ดังนั้นควรจะแยก ยก
หรือเก็บไว้ในที่สูงกว่าที่เด็กจะหยิบถึงเช่น
สวิทช์ไฟฟ้า
เครื่องมือกล
และถ้าทำงานที่อาจจะเกิดอัคคีภัย
ควรจัดหาเครื่องมือดับเพลิงเตรียมไว้ใกล้มือเสมอ
ถ้าการทำงานีเสียงมากก็ควรบุฝ้าเพดานหรือผนังเพื่อช่วยลดเสียงและความสั่นสะเทือนไปรบกวนผู้ที่อยู่ห้องข้างเคียงด้วย |