|
|
|
โจ๊กสำหรับครอบครัว
8
Family Jokes
1
-
Family Jokes 2
-
Family Jokes 3
- Family Jokes
4 - Family Jokes
5
Family Jokes
6 - Family Jokes
7 - Family Jokes
8 - Family Jokes
9
- Family Jokes
10 - Family Jokes
11
|
Family
Jokes 8 |
ไม่น่าถาม
วันหนึ่งอมรแวะไปเยี่ยมบ้านสมปองเพื่อนซี้ เขาเห็นบ้านเพื่อนปลูกต้นไม้มากมาย สมปองเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ให้ถูกโฉลกกับบ้าน เช่น การปลูกมะยม ไว้หน้าบ้านเพื่อการได้ความนิยมชมชอบจากเพื่อนบ้าน หรือ
การปลูกขนุน เพื่อหนุนให้เกิดความมั่นคงแก่ชีวิต ปลูกต้นรัก เพื่อจะได้ทำให้ใคร ๆรักใคร่ ชื่นชม เป็นต้น พอเดินไปถึงหลังบ้านเขาก็เห็นต้นมะละกอปลูกอยู่หลายต้นด้วยความสงสัยหนุ่มอมรจึงถามขึ้นว่า
"เฮ้ย
ไอ้ต้นไม้อื่นฟังชื่อก็พอจะเข้าใจความหมาย
แต่ไอ้ต้นมะละกอนี่น่ะ
มันมีความหมายยังไงว่ะ.... "
สมปองตอบ "แหม..ไม่น่าถาม "
สมปองทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะหันหลังเดินเข้าครัว พร้อมกับหันมาตอบส่งท้าย
"ความหมายของมะละกอ ก็คือ ส้มตำ
น่ะสิ ไอ้เบื๊อก"
พยานปากเอก
ในศาลเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง กำลังมีการตัดสินคดีอาญาคดีหนึ่งทนายความกำลังซักพยานปากเอกซึ่งเห็นเหตุการณ์ พยานคนนี้เป็นหญิงอายุมากคนหนึ่ง
ทนายความถามเธอว่า "คุณอึ่มศรี คุณรู้จักผมไหม ?"
เธอตอบเสียงดัง "อ๋อ แน่นอน... ฉันรู้จักคุณแน่คุณสมชาย ฉันเห็นคุณมาตั้งแต่ยังเด็กๆ แต่คุณก็ทำให้ฉันผิดหวัง คุณโกงเมียของคุณ
แบล็กเมล์เมียของคุณ
คุณไม่มีสมองที่จะคิดว่าค่าของคุณไม่ได้เกินไปกว่า
กระดาษชำระแผ่นนึง ...ใช่ ฉันรู้จักคุณ"
ผู้พิพากษาตะลึง แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยชี้ไปทางอีกด้านหนึ่งของห้องพิพากษา แล้วสั่งให้ทนายคนเดิมพูดต่อ
ทนายคนเดิมถามว่า "คุณอึ่มศรี... คุณรู้จักทนายฝ่ายตรงข้ามหรือเปล่า ?"
เธอรีบตอบ "แน่นอนฉันรู้จักคุณสมปองตั้งแต่เขายังเด็กเหมือนกัน ฉันเคยเลี้ยงดูเขาแทนแม่ของเขา แต่เขาทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก
เขาขี้เกียจ หัวดื้อ แล้วก็ยังติดเหล้า ไม่มีใครคบ
แถมฝีมือในการว่าความก็ห่วยที่สุดในเมือง ...ใช่ ฉันรู้จักเขา"
ทนายเริ่มถามต่อว่า "คุณอึ่มศรี... แล้วคุณรู้จักผู้พิพากษา... "
ผู้พิพากษารีบใช้ค้อนเคาะที่โต๊ะหลายๆครั้งเพื่อให้เงียบ
"หยุดเดี๋ยวนี้...คุณสมชาย ถ้าคุณยังไม่หยุดถามเธอนอกเรื่อง
ผมจะเอาคุณไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังเดี๋ยวนี้ !"
ส่งมาโดย
dream2003@hotmail.com
เก่งจริงๆ
เจมกำลังมีปํญหาเรื่องเจ็บหัวเข่าจึงปรึกษาเพื่อนว่าจะไปหาหมอที่ไหนดี เพื่อนแนะนำว่า "จะไปหาหมออยู่ทำไม
รู้ไหมที่ร้านขายยาตรงหัวมุมน่ะ
มีเครื่องคอมพิวเตอร์วินิจฉัยโรคได้ร้อยแปดอย่างเลย เพียงแต่นายเอาตัวอย่างฉี่นายไปให้เครื่องตรวจเท่านั้นเอง"
เมื่อเคนไปที่ร้านขายยาและเจอเครื่องคอมฯ ที่ว่า เขาจึงเทตัวอย่างปัสสาวะของเขาที่เตรียมมาแล้วลงไปในเครื่อง เครื่องคอมฯ เริ่มส่งเสียงครืดคราดๆ สักครู่
ก็มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาจากตัวเครื่อง ในกระดาษเขียนว่า
"คุณเป็นโรคหัวเข่าอักเสบ
ให้ใช้น้ำอุ่นประคบบ่อยๆ อย่ายกของหนักสักสองสัปดาห์"
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เจมนั่งคิดถึงความเก่งกาจของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น
และอยากจะทดสอบว่าคอมพิวเตอร์เก่งจรึงรึเปล่าจึงวางแผนอะไรทำอะไรพิเรนทร์ๆ ขึ้นเขานำน้ำประปาผสมกับปัสสาวะของสุนัข
แล้วนำปัสสาวะของเมียและลูกสาวเขาผสมลงไปอีก วันรุ่งขึ้น เขารีบไปที่ร้านขายยาร้านเดิม และกรอกน้ำทั้งหมดลงไปให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไฮเทคเครื่องนั้น
เจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มส่งเสียงครืดคราด แล้วสักครู่ก็มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมา เขียนบอกว่า
"น้ำประปาบ้านคุณสกปรกเกินไป ควรเปลี่ยนเครื่องกรองน้ำใหม่ สุนัขของคุณมีเห็บ
ควรพาไปหาสัตวแพทย์ด่วน ลูกสาวคุณติดโคเคนอย่างหนัก
รีบเธอไปหาหมอให้เลิกยาซะ ส่วนเมียคุณกำลังตั้งครรภ์และมีลูกแฝด
แต่ไม่ใช่ลูกของคุณ ฮ่าๆๆ"
ส่งมาโดย
dream2003@hotmail.com
โศกนาฏกรรม
วันที่ประธานาธิบดีคลินตันแวะไปเยี่ยมชมโรงเรียน ในห้องเรียนของชั้น ป.1
คลินตันอยากทดสอบผลการศึกษาของเด็กจึงถามว่า
"ใครพอจะยกตัวอย่างโศกนาฏกรรมได้บ้าง"
เด็กชายคนหนึ่งยกมือขึ้นบอกด้วยเสียงเศร้าๆ ว่า "โศกนาฏกรรมก็คือ วันหนึ่ง เพื่อนรักของผมกำลังเล่นอยู่ริมถนน แล้วก็มีรถบรรทุกขับมาชนเขา แล้วเขาก็ตายฮะ"
"โอ นั่นไม่ได้เรียกว่าโศกนาฏกรรมนะหนู เขาเรียกว่า "อุบัติเหตุ" ต่างหาก..ไหนใครยกตัวอย่างได้ดีกว่านี้บ้าง"
เด็กผู้หญิงอีกคนยกมือ " โศกนาฏกรรมก็คือ รถบรรทุกเด็กนักเรียน วิ่งตกเหว ทุกๆ คนในรถตายหมดค่ะ"
"นั่นก็ไม่ใช่โศกนาฏกรรมอีกนั่นแหละ เขาเรียกว่า "ความเสียหายใหญ่หลวง" เอ้า คนต่อไปว่ามาอีกซิ"
คราวนี้ ห้องทั้งห้องเงียบ ไม่มีใครกล้ายกมืออีก "เอ้า ทำไม
ในห้องนี้ไม่มีคนรู้จักโศกนาฏกรรมเลยเหรอเนี่ย"
คลินตันเริ่มหงุดหงิด แต่ทันใดนั้น
เด็กผู้ชายใส่แว่นหนาเตอะท่าทางขี้อายค่อยๆ ยกมือขึ้น พร้อมกับพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
"เครื่องบินที่บรรทุกประธานาธิบดีคลินตันกับฮิลลารี
คลินตัน ระเบิดกลางอากาศ ฮะคือโศกนาฏกรรม"
"เก่งมาก" คลินตันพอใจกับคำตอบ "เอาล่ะ ไหนลองบอกหน่อยสิว่าทำไมถึงเรียกเหตุการณ์นั้นว่าเป็นโศกนาฏกรรม"
"คือว่า.." เด็กชายเงียบไปสักครู่ "ผมว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ
แล้วก็ไม่ได้เป็นความเสียหายใหญ่หลวงฮะ"
ส่งมาโดยน้องหนิง จ.ราชบุรี
พันธ์อะไรเนี่ย..
บริษัทแห่งหนึ่งกำลังต้องการพนักงานใหม่จึงติดป้ายไว้ที่กระจกหน้าร้านว่า
"ต้องการพนักงานด่วน คุณสมบัติ ต้องสามารถพิมพ์ดีด ใช้คอมพิวเตอร์ และสามารถพูดได้หลายภาษา"
สักครู่ มีสุนัขตัวหนึ่งเดินผ่านมา หยุดอยู่ที่ป้ายสักครู่จึงมายืนเห่าอยู่หน้าประตูสำนักงาน เมื่อเลขาเปิดประตู
เจ้าสุนัขรีบกระโจนเข้าไปในสำนักงานพลางเห่าไปที่ป้ายนั้น ผู้จัดการฝ่ายบุคคลออกมาพอดี เจ้าสุนัขเห็นจึงรีบกระโดดขึ้นบนเก้าอี้ ผู้จัดการเห็นจึงพูดอย่างติดตลกว่า
"เจ้าจะมาสมัครงานเหรอ
ฮ่าๆๆ พิมพ์ดีดได้ไหมล่ะ"
สุนัขได้ยินดังนั้นก็กระโดดไปที่เก้าอี้หน้าเครื่องพิมพ์ดีด แล้วลงมือพิมพ์
จนเสร็จจึงคาบไปให้ผู้จัดการ ฝ่ายผู้จัดการตะลึงกับความสามารถของมัน แต่ก็ยังปฏิเสธ
"เจ้าพิมพ์ได้ถูกต้องตามแบบฟอร์มเลยนะ ดีมาก แต่ว่า เราต้องการคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นด้วยนะ"
สุนัขรีบกระโดดไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์
เริ่มบูตเครื่องและเปิดโปรแกรมใช้งานให้ผู้จัดการดูอย่างคล่องแคล่ว
ถึงตอนนี้ผู้จัดการก็ยังไม่ค่อยอยากรับ..จึงพูดกับสุนัขว่า "เออ แกเป็นหมาที่เก่งมาก แต่ที่เราต้องการจริงๆ คือคนที่พูดได้หลายๆ ภาษาต่างหาก"
สุนัขมองหน้าผู้จัดการสักครู่..แล้วร้อง"เหมียว"
ส่งมาโดยคุณ ส้มป่อย
ข่าวดีและข่าวร้าย
วันหนึ่งพระเจ้าได้เรียก บิล
คลินตัน , บอริส เยลต์ซิน และ บิล
เกตต์ มาประชุมกัน
เมื่อทั้งสามมาครบแล้ว พระเจ้าก็พูดว่า
"ฉันมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอกพวกท่าน ข่าวร้ายคือฉันปวดหัวมากกับความวุ่นวายของโลก ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะทำลายมัน
ส่วนข่าวดีคือฉันอนุญาตให้พวกเธอประกาศเตือนคนอื่นๆก่อนได้ 1 อาทิตย์"
พอทราบ บิล คลินตัน ก็โทรเข้าไปในสภาคอนเกรส แล้วประกาศว่า"ผมมีข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือพระเจ้ามีจริง แต่ข่าวร้ายคือเขากำลังจะทำลายโลกภายใน 1
สัปดาห์"
ส่วนบอริส เยลต์ซินโทรศัพท์เข้าไปในพรรคคอมมิวนิสต์ แล้วประกาศว่า "ฉันมีข่าวร้ายและข่าวที่ร้ายกว่า ข่าวร้ายคือพระเจ้ามีจริง และข่าวร้ายกว่าคือเขาจะทำลายโลกภายใน
1 สัปดาห์"
ในขณะเดียวกัน บิล เกตต์ ก็เรียกโปรแกรมเมอร์ , ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาด และผู้บริหารทั้งหลายมารวมกัน แล้วประกาศว่า "ผมมีข่าวดีและข่าวที่ดีกว่าจะบอก
ข่าวดีคือพระเจ้าเห็นว่าผมเป็นคนสำคัญ 1 ใน 3 ของโลก ส่วนข่าวที่ดีกว่านั้นคือพวกเราไม่จำเป็นต้องแก้ไข Windows 95 อีกต่อไปแล้ว"
ส่งมาโดยคุณ HaHa
|
|
|
|
|
|
|